TCAS68 แพทย์พระมงกุฎ: แนะนำการสมัครเรียนต่อพร้อมทุน ปีการศึกษา 2568

สวัสดีน้องๆ นักเรียนทุกคน! 👋 วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ มาฝากเกี่ยวกับการรับสมัครนักศึกษาใหม่ในระบบ TCAS68 ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ประจำปีการศึกษา 2568 พร้อมทุนการศึกษา มาดูกันว่ามีรายละเอียดอะไรบ้าง!

📅 กำหนดการสำคัญ

การสมัครสอบ TPAT1

1. รับสมัครออนไลน์: 1-20 กันยายน 2567
2. ประกาศที่นั่งสอบ กสพท: เดือนพฤศจิกายน 2567
3. วันสอบ TPAT1: 14 ธันวาคม 2567

การสมัครสอบ A-Level

1. รับสมัคร: 28 มกราคม – 6 กุมภาพันธ์ 2568
2. ประกาศที่นั่งสอบ: 20 กุมภาพันธ์ – 10 มีนาคม 2568
3. วันสอบ A-Level: 8, 9, 10 มีนาคม 2568
4. ประกาศผลสอบ: 17 เมษายน 2568

TCAS รอบ 3 Admission

1. รับสมัคร: 6-12 พฤษภาคม 2568
2. ประกาศผลครั้งที่ 1: 20 พฤษภาคม 2568
3. ประกาศผลครั้งที่ 2: 25 พฤษภาคม 2568
4. ยืนยันสิทธิ์: 20-21 พฤษภาคม 2568
5. สละสิทธิ์: 26 พฤษภาคม 2568

🎓 หลักสูตรที่เปิดรับ

หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (หลักสูตร 6 ปี) ได้รับการรับรองจากแพทยสภา

💰 ทุนการศึกษา

1. ทุนกองทัพบก
   • จำนวน 20 ทุน (เฉพาะเพศชาย)
   • สถานภาพ: นักเรียนแพทย์ทหาร
   • สิทธิประโยชน์: เงินเดือน, เบี้ยเลี้ยง, เครื่องแต่งกาย, ที่พัก
   • การชดใช้ทุน: 2 เท่าของระยะเวลาการศึกษา
2. ทุนโครงการผลิตแพทย์เพิ่ม
   • จำนวน 90 ทุน (ชาย 45 ทุน, หญิง 45 ทุน)
   • สถานภาพ: นักศึกษาแพทย์
   • ค่าใช้จ่าย: ชำระค่าบำรุงการศึกษาตามที่กำหนด
   • การชดใช้ทุน: ปฏิบัติราชการ 3 ปี

🎯 จำนวนรับ TCAS รอบ 3 Admission

• เพศชาย: 65 ที่นั่ง
• เพศหญิง: 45 ที่นั่ง

✅ คุณสมบัติของผู้สมัคร

1. อายุไม่เกิน 20 ปี
2. มีเชื้อชาติไทย สัญชาติไทย
3. บิดา มารดาผู้ให้กำเนิดต้องมีสัญชาติไทยโดยกำเนิด (มีข้อยกเว้นสำหรับบุตรทหาร)
4. ส่วนสูงและน้ำหนัก:
   • เพศชาย: สูงไม่ต่ำกว่า 160 ซม. น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 50 กก.
   • เพศหญิง: สูงไม่ต่ำกว่า 150 ซม. น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 40 กก.

📊 เกณฑ์การคัดเลือก

1. A-Level (70%)
   • วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา): 40%
   • คณิตศาสตร์ 1: 20%
   • ภาษาอังกฤษ: 20%
   • ภาษาไทย: 10%
   • สังคมศึกษา: 10%
   • ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 30% ในแต่ละวิชา
2. TPAT1 (30%)
   • จัดสอบโดย กสพท.

💡 ข้อแนะนำสำหรับผู้สมัคร

1. ศึกษาข้อมูลและคุณสมบัติให้ละเอียดก่อนสมัคร
2. เตรียมตัวสอบ TPAT1 และ A-Level อย่างเต็มที่
3. ตรวจสอบกำหนดการและสมัครภายในเวลาที่กำหนด
4. เตรียมเอกสารประกอบการสมัครให้ครบถ้วน
5. พิจารณาทุนการศึกษาที่เหมาะสมกับตนเอง

การเลือกเรียนแพทย์ที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาตนเองและรับใช้ประเทศชาติ ขอให้น้องๆ พิจารณาอย่างรอบคอบและเลือกในสิ่งที่ตรงกับความสนใจและความถนัดของตัวเอง

สุดท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการสมัครเรียนต่อที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า หรือสถาบันในฝันของน้องๆ ทุกคนค่ะ! 💪📚🎓

❓ คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. Q: ทุนกองทัพบกมีเฉพาะเพศชายใช่หรือไม่?
   A: ใช่ครับ ทุนกองทัพบกรับเฉพาะเพศชาย ส่วนทุนโครงการผลิตแพทย์เพิ่มรับทั้งชายและหญิง
2. Q: ผู้จบ กศน. สามารถสมัครเรียนแพทย์พระมงกุฎได้หรือไม่?
   A: ได้ครับ มีตัวอย่างนักเรียนที่จบ กศน. และสอบติดวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้ามาแล้ว
3. Q: คะแนนที่ใช้ในการคัดเลือกมีอะไรบ้าง?
   A: ใช้คะแนน A-Level 70% และ TPAT1 30% โดยแต่ละวิชาต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 30% ของคะแนนเต็ม
4. Q: มีการระบุภูมิลำเนาในการสมัครหรือไม่?
   A: ไม่มีการระบุภูมิลำเนาในเกณฑ์การรับสมัคร แต่ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนด เช่น สัญชาติไทย
5. Q: หากได้รับคัดเลือก ต้องรับราชการทหารหรือไม่?
   A: สำหรับทุนกองทัพบก ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจะได้รับการแต่งตั้งยศเป็นว่าที่ร้อยตรีและบรรจุเข้ารับราชการในกองทัพบก ส่วนทุนโครงการผลิตแพทย์เพิ่มจะปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการกำหนด