สทนช. ประกาศเตือนจังหวัดริมแม่น้ำโขง รับมือน้ำล้นตลิ่ง-น้ำทะลักท่วม ระหว่าง 12-16 ก.ย. นี้
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศเตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ออกประกาศฉบับที่ 14/2567 โดยระบุว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจัยหลายประการ โดยเฉพาะฝนที่ตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย รวมถึงสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำสะสมในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผลกระทบจากฝนหนักและอิทธิพลของร่องมรสุม
ประกอบกับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่เลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งส่งผลกระทบให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 14 - 18 กันยายน 2567 นี้ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นอีก ส่งผลให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง
การคาดการณ์สถานการณ์ระดับน้ำแม่น้ำโขง ช่วงวันที่ 12 - 16 กันยายน 2567
สทนช. ได้ประเมินแนวโน้มสถานการณ์ในช่วงวันที่ 12 - 16 กันยายน 2567 โดยคาดว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขงจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในหลายจังหวัด ดังนี้:
จังหวัดเชียงราย (สถานีเชียงแสน)
- คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 0.50 - 0.70 เมตร แต่ยังต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 3.40 เมตร
จังหวัดเลย (สถานีเชียงคาน)
- คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 3.00 - 3.60 เมตร และมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 0.50 - 1.50 เมตร ระหว่างวันที่ 13 - 16 กันยายน 2567
จังหวัดหนองคาย และบึงกาฬ (สถานีหนองคาย และสถานีบึงกาฬ)
- คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 3.50 - 3.90 เมตร โดยมีแนวโน้มสูงกว่าตลิ่ง 1.50 - 2.50 เมตร ระหว่างวันที่ 13 - 16 กันยายน 2567
จังหวัดนครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
- คาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 2.00 - 2.60 เมตร แต่ยังต่ำกว่าตลิ่ง 0.50 - 1.30 เมตร
คำแนะนำในการเตรียมตัวและการเฝ้าระวัง
เนื่องจากสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สทนช. ได้แนะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ริมแม่น้ำโขงเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ โดยเฉพาะบริเวณที่มีการไหลลงของแม่น้ำสาขาต่าง ๆ ที่ไม่สามารถระบายน้ำได้สะดวก
นอกจากนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่ต้องสัญจรหรือประกอบกิจกรรมในบริเวณแม่น้ำโขง ตลอดจนผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ใกล้แม่น้ำ ให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขง